โพสนี้จะมารีวิวการทำ Hifu หน้าเรียวที่เกาหลีค่ะ การทำ Hifu คือการใช้คลื่นความถี่สูงส่งเข้าไปในผิวหนังชั้นลึกเพื่อทำให้ผิวหนังชั้นในหดตัว ช่วยทำให้ผิวยกกระชับและกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน เอาง่ายๆ ให้นึกถึงตอนที่เราย่างหมูกระทะ (กลืนน้ำลาย เฮือก!) แล้วเนื้อหมูมันหดตัวเวลาโดนความร้อน การทำ Hifu ก็ประมาณนั้นเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลอง Hifu ซึ่งที่เกาหลีราคาถูกมากจ้า เค้ามีให้เลือก 300 ช๊อต ราคาอยู่ที่ 89,000 วอน หรือประมาณ 2700 บาทเท่านั้นเอ๊งงงง ซึ่ง 300 ช๊อตมันจะได้แค่ช่วงแก้มนะ อ้อเลยจัดไป 600 ช๊อต ได้ทั้งหน้า ใต้ตา เหนียงด้วย
คลีนิคที่อ้อไปชื่อว่า Lienjang บอกก่อนว่านี่ไปเอง จ่ายเอง ไม่มีสปอนเซอร์นะคะ คลีนิคนี้เค้ามีหลายสาขา อ้อไปสาขาที่ฮงแด เดินขึ้นจากสถานีรถไฟทางออก 8 ก็เจอเลย
ตอนนั้นอ้อจะไปเที่ยวเกาหลีพอดีก็เลยนัดคิวล่วงหน้าทางไลน์ไว้ก่อน พนักงานที่ให้บริการทางไลน์เป็นคนไทยค่ะ ขอรีวิวพนักงานที่ให้บริการทางไลน์นิดนึงว่า “เหวี่ยง วีน มาก” อันนี้อ้อไม่แน่ใจว่าเป็นพนักงานของทางคลีนิคหรือเป็นเจ้าของคลีนิคนะคะเพราะไลน์ที่เค้าใช้ไม่ใช่ไลน์ @ ที่เป็นแบบ Business แต่เป็นไลน์ส่วนตัว (จริงๆ คลีนิคเค้ามีไลน์ @ แหละ แต่นี่ไม่รู้ทำไมไปแอดไลน์ที่เป็นส่วนตัว) เรื่องของเรื่องคืออ้อก็แอดไลน์ไปนัดทำ Hifu นี่แหละ ก็ถามนู้นนี่นั้นไปเรื่อยว่ามันอยู่ได้นานมั้ย จะไปเที่ยวควรไปทำวันแรกหรือวันสุดท้ายดี คืนภาษียังไง หักเลยมั้ยหรือต้องไปทำคืนที่หลัง พนักงานก็ตอบแบบเหวี่ยงวีนเหมือนรำคาญ ถึงแม้จะคุยผ่านตัวอักษรแต่อิชั้นสัมผัสได้ ที่พีคเลยคือในเพจเค้าแจ้งว่าถ้าทำ Hifu 300 ช็อต มีส่วนลดจาก 135,000 วอน เหลือ 89,000 วอน อ้อก็แจ้งไปว่าขอทำ 600 ช็อต แต่ราคาที่พนักงานคอนเฟิร์มมาคือ 270,000 วอน (ไม่รวมภาษี 10%) นี่ก็ถามต่อว่า อ้าว มันมีโปรโมชั่นไม่ใช่เหรอคะ ทำไมคิดเราราคาเต็ม พนักงานบอกว่าโปรโมชั่นสำหรับคนทำ 300 ช็อตเท่านั้นค่ะ!!
อะ ก็ตามนั้น ถึงจะรู้สึกไม่แฟร์แต่ก็ลองดูเพราะราคามันถูกกว่าที่ไทยเยอะ วันที่ไปทำจริงๆ ก็ภาวนาขอให้ไม่เจอพนักงานคนนี้ 555 พอไปถึงคือคนแน่นคลีนิคมาก และคนไทยเยอะมาก! แต่ละคนก็จะมียาชาแปะอยู่ที่หน้า แปะตามจมูกบ้าง ร่องแก้มบ้าง แต่ของอ้อเนื่องจากทำทั้งหน้าและเหนียงยาชาเลยจะเยอะกว่าเพื่อน ที่คลีนิคมีพนักงานคนไทยอยู่หลายคนเลยค่ะ จะบอกว่าพี่ๆ ที่คลีนิคน่ารักและบริการดีมาก ให้คำแนะนำดีและราคาที่จ่ายจริงในวันนั้นคือเป็นราคาที่มีส่วนลดจ้า คือจ่ายไป 178,000 วอน (ไม่รวมภาษี 10%) นี่เลยเหลือเงินที่แลกมาเอาไปช็อปปิ้งเล่นๆ อีกแสนวอนเลย
ลืมบอกไปว่าก่อนจะทายาชาเค้าจะให้เราไปล้างหน้าก่อนนะคะ แนะนำว่าไม่ต้องแต่งหน้ามา หรือใครแต่งมาก็พกเอาพวก Makeup Remover มาด้วย ที่คลีนิคเค้ามีให้อยู่แต่เผื่อใครอยากใช้ของตัวเองก็พกมาด้วยค่ะ
หลังจากทายาชาไปได้สักพักแล้วก็ไปพบกับคุณหมอ ซึ่งคุณหมอก็น่ารัก พูดอังกฤษได้นิดหน่อย คุณหมอแนะนำว่าควรทำซ้ำหลังจากนี้อีก 2 เดือนถึงจะเห็นผลชัด (นี่พร้อมทุกอย่างยกเว้นวันลาค่ะคุณหมอ T^T) ถ้าไม่ทำซ้ำมันก็จะเห็นผลนิดหน่อยและความกระชับของผิวจะอยู่ต่อได้แค่ 3 เดือนนะ ระหว่างทำไปคุณหมอก็ชวนคุยไป ถามว่าเจ็บมั้ย ก็ไม่เจ็บนะ แค่รู้สึกจี๊ดๆ ใต้ผิว หลังจากคุณหมอทำไปได้ข้างนึงคุณหมอก็ส่งกระจกให้ดูความต่างระหว่างข้างซ้ายและขวา (ซึ่งดิชั้นไม่ได้ถ่ายรูปมา แหะๆ) จะบอกว่าผิวมันยกขึ้นแบบน่าอัศจรรย์มาก เห็นความต่างทั้ง 2 ข้างชัดมาก แต่ก็รอดูผลหลัง 1 เดือนนะ
หลังจากที่ทำไป 1 เดือน ที่สังเกตได้เลยคือช่วงกรามชัดขึ้น เหนียงลดลงนิดหน่อย แก้มลดลงเยอะมาก ลดจนเห็นโหนกเด่นขึ้นมาเลย ส่วนแก้มที่ยกกระชับตอนที่คุณหมอให้ดูตอนแรกมันก็กลับมาย้อยๆ เหมือนเดิมนะ ร่องแก้มก็ยังอยู่ ร่องใต้ตาก็ยังอยู่ ที่เห็นชัดๆ เลยก็เป็นพวกไขมันส่วนเกินต่างๆ ที่ลดลงไป
สรุป! จากประสบการณ์ตัวเองล้วนๆ แนะนำว่า Hifu นี้เหมาะกับคนที่มีไขมันมาก คนที่มีแก้มเยอะๆ เหนียงเยอะๆ ควรลอง แต่ถ้าคนที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องแก้ม ร่องใต้ตา แก้มห้อยย้อย ไม่หายค่ะ ลองดูวิธีอื่นดีกว่า
สำหรับใครที่สนใจก็ลองติดต่อไปที่คลีนิคนี้ได้นะคะ เพจ Lienjang Thailand หรือไลน์ @lienjangthailand จ้า
ระหว่างรอทำสวยค่ะ
ป้ายราคาของทางคลีนิค มีให้เลือกเยอะเหมือนเมนูอาหารเลยจ้า
นี่คือใบหน้าหลังทำ 1 เดือน ส่วนที่รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงไปคือแก้มเล็กลง โครงกรามชัดขึ้นและโหนกก็โผล่มาแบบงงๆ ส่วนตัวพอใจนะคะกับผลที่ได้ รู้สึกว่าเค้ามาเปิดคลีนิคที่ไทยแล้วนะคะแต่ราคาอาจจะแพงกว่าที่เกาหลี ใครสนใจก็ลองแวะไปดูรายละเอียดได้ที่เพจของคลีนิคเลยค่ะ
